The Great Train Robbery : การผจญภัยลุ้นระทึกบนเส้นทางเหล็กและการกำเนิดของภาพยนตร์แอคชั่น!

blog 2024-11-26 0Browse 0
 The Great Train Robbery : การผจญภัยลุ้นระทึกบนเส้นทางเหล็กและการกำเนิดของภาพยนตร์แอคชั่น!

ในปี 1908 อุตสาหกรรมภาพยนตร์ยังคงอยู่ในวัยทารก กำลังเริ่มก้าว 발전ไปสู่ศตวรรษที่ 20 ภาพยนตร์ส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์เงียบ สั้น และเน้นไปที่การบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ อย่างง่ายๆ แต่ “The Great Train Robbery” ของ Edwin S. Porter ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ที่ทำให้ผู้ชมตะลึงงัน

ไม่ใช่แค่เพราะความยาวของภาพยนตร์ (12 นาที!) ซึ่งถือว่ายาวมากในสมัยนั้น แต่ยังเป็นเพราะการนำเสนอเรื่องราวที่ตื่นเต้นเร้าใจ การตัดต่อที่ไ fluidity และเทคนิคภาพยนตร์ที่ล้ำหน้าสำหรับยุคนั้น

“The Great Train Robbery” เล่าเรื่องของแก๊งโจรหัวหน้าโดย “Bandit Leader” (แสดงโดย Fred J. Balshofer) ซึ่งวางแผนปล้นรถไฟ

พวกเขาทุกคนสวมหมวกสีดำและเสื้อโค้ทยาว, รูปลักษณ์ที่ดูเท่และน่าเกรงขาม การปล้นเริ่มต้นขึ้นด้วยการโจรกรรมธนาคารก่อนที่จะยิงปืนใส่รถม้าลาก และในที่สุดก็บุกเข้าไปในรถไฟ

ฉากแอ็คชั่นถูกถ่ายทำอย่างชาญฉลาด การใช้เทคนิคการตัดต่อที่เรียกว่า “cross-cutting” ทำให้ผู้ชมได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นพร้อมกัน: แก๊งโจรกำลังปล้นรถไฟ, ผู้โดยสารตกใจและวิ่งหนี, และเจ้าหน้าที่ตำรวจตามล่า

หลังจากปล้นรถไฟสำเร็จ, แก๊งโจรก็ขี่ม้าหนีไป

แต่ความยุติธรรมก็ได้รับการพิสูจน์เมื่อ “Bandit Leader” ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

แม้ว่าเรื่องราวของ “The Great Train Robbery” จะค่อนข้างเรียบง่าย แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับกลายเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ทรงอิทธิพลอย่างมาก

เทคนิคและความสำคัญในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์

Porter นำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพยนตร์หลายอย่างที่ใหม่และเป็นนวัตกรรม:

  • การตัดต่อ: “The Great Train Robbery” เป็นหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องแรกที่ใช้การตัดต่ออย่างมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความตื่นเต้นและความลุ้นระทึกให้กับผู้ชม

  • เทคนิค close-up: Porter ใช้ close-up เพื่อเน้นแสดงอารมณ์ของตัวละคร และสร้างความใกล้ชิดกับผู้ชม

  • การใช้สถานที่จริง: การถ่ายทำในสถานที่จริง (เช่น: โรงรถ, ทางรถไฟ) ทำให้ภาพยนตร์ดูสมจริงและน่าเชื่อถือ

“The Great Train Robbery” ไม่เพียงแต่เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่องแรกเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญในการพัฒนาวิธีการเล่าเรื่องในภาพยนตร์ การตัดต่อที่ชาญฉลาด และการใช้เทคนิคทางภาพยนตร์ใหม่ๆ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทองของภาพยนตร์

ความนิยมและมรดก

“The Great Train Robbery” ได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยนั้น และยังคงเป็นที่ชื่นชมในฐานะภาพยนตร์คลาสสิค

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็น:

  • ภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่องแรก: “The Great Train Robbery” ได้สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับภาพยนตร์แอ็คชั่น

  • ภาพยนตร์ที่ใช้เทคนิคการตัดต่ออย่างชาญฉลาด: การตัดต่อที่ไ fluidity และ effective ทำให้ผู้ชมตื่นเต้นและติดตามเนื้อเรื่องได้

  • ภาพยนตร์ที่มีอิทธิพลต่อภาพยนตร์ในภายหลัง: เทคนิคและวิธีการเล่าเรื่องของ “The Great Train Robbery” ได้รับการดัดแปลงและพัฒนาโดยผู้กำกับภาพยนตร์รุ่นต่อมา

**บทสรุป:

**The Great Train Robbery" เป็นภาพยนตร์ที่สำคัญและมีอิทธิพลอย่างมากในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของภาพยนตร์ในการเล่าเรื่องที่ตื่นเต้นเร้าใจ และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้กำกับภาพยนตร์รุ่นต่อมา

“The Great Train Robbery”:

  • ตัวอย่างความสามารถ

และความคิดสร้างสรรค์

  • จุดเริ่มต้น

ของยุคทองของภาพยนตร์


TAGS